"เดชาพล-ทรัพย์สิรี" ผงาดเบอร์ 1 โลกอย่างเป็นทางการ

ปี 2558 “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์หนุ่มชลบุรี กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัยสาวจากอุดรธานี เริ่มต้นจับมือแท็กทีมกันเป็นคู่ผสมหน้าใหม่ ประเดิมแข่งรายการแรกในศึกชิงแชมป์ประเทศไทย ทั้งคู่ใช้เวลาแค่ปีครึ่งก็ไต่อันดับขึ้นไปติดท็อป 20 ของโลกได้อย่างรวดเร็ว!
 6 เดือนต่อมา บาส-ปอป้อที่พัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดด ก็ทะยานขึ้นไปติดท็อป 10 ของโลก และในปีเดียวกันคว้าแชมป์แรกได้สำเร็จในรายการ "โยเน็กซ์ สวิส โอเพ่น 2560" รวมถึงพิชิตเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่มาเลเซีย บวกกับอีก 3 รองแชมป์จากรายการ ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2560, สิงคโปร์ โอเพ่น 2560 และชิงแชมป์เอเชีย 2560
 ขณะที่ผลงานกำลังร้อนแรง ทั้งคู่ก็ต้องสะดุด เพราะปอป้อ ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า ในระหว่างลงเล่นหญิงคู่กับพุธิตา สุภจิรกุล ในกีฬาซีเกมส์ที่มาเลเซีย ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัด  ซึ่งปอป้อต้องใช้ความอดทนในการรักษาและฟื้นฟูอย่างสูงภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่มีศ.ดร.เจริญ กระบวนรัตน์ เป็นหัวหน้า

หลังจากใช้เวลารักษา6 เดือน ในปี 2561 ปอป้อกลับมาคืนคอร์ต เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้งในการเล่นคู่กับบาส และด้วยความมีวินัย ตั้งใจ มุ่งมั่น ทำให้ทั้งคู่ใช้เวลาเพียงไม่นาน ก็เริ่มกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง เริ่มจากการคว้ารองแชมป์รายการ "เดนมาร์ก โอเพ่น 2561" และทำคะแนนสะสม ผ่านเข้าไปเล่นในรายการ "เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 22561" ที่จีน ก่อนจะสร้างผลงานเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ด้วย
 
ปีถัดมา 2562 บาส-ปอป้อพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง กวาดแชมป์ได้ถึง 3 รายการคือ สิงคโปร์ โอเพ่น 2562, โคเรีย โอเพ่น 2562 และ มาเก๊า โอเพ่น 2562 นอกจากนี้ยังพ่วงด้วยรองแชมป์อีก 3 รายการ ซึ่ง 1 ในนั้น คือการแข่งขันชิงแชมป์โลก 2562ที่สวิตเซอร์แลนด์ อีกทั้งยังฝ่าด่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2562 ได้เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน

 
ปี 2563 บาส-ปอป้อทะลุเข้าชิงชนะเลิศและคว้ารองแชมป์รายการที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของโลกอย่าง “ออล อิงแลนด์ โอเพ่น 2563" เมื่อเดือนมีนาคมได้เป็นครั้งแรก ก่อนที่การแข่งขันแบดมินตันทั่วโลกจะถูกยกเลิกไป เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19
 ต้นปี 2564 กีฬาลูกขนไก่เริ่มกลับมาแข่งขันกันใหม่ บาส-ปอป้อก็สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการกวาด 3 แชมป์ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพได้แก่ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น, โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น และเอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2563 ซึ่งถือเป็นคู่ผสมคู่แรกที่คว้า "ทริปเปิ้ลแชมป์" ในรายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 สามสัปดาห์ติดต่อกัน พร้อมๆ กับการก้าวขึ้นสู่มืออันดับ 2 ของโลก
 แม้ว่า เมื่อกลางปีที่ผ่านมา บาส-ปอป้อจะผิดหวังจากโอลิมปิกเกมส์ 2564 ที่กรุงโตเกียวก็ตาม แต่ทั้งคู่ก็ไม่ถอดใจ ตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนักต่อเนื่อง และมาคว้ารองแชมป์ “เดนมาร์ก โอเพ่น 2564” เมื่อเดือนตุลาคม ก่อนจะผงาดแชมป์ “ฮายโล โอเพ่น 2564” ได้สะใจกองเชียร์คนไทย
 8 แชมป์กับอีก 11 รองแชมป์คือ เกียรติยศและชื่อเสียงที่ “บาส” กับ “ปอป้อ” ร่วมกันสร้างมาให้กับประเทศไทยในวงการแบดมินตันโลก
ผลงานแชมป์กับรองแชมป์ “บาส-ปอป้อ” ประเภทคู่ผสมในเวทีแบดมินตันระดับนานาชาติ
แชมป์ 8 รายการ
ปี 2017 สวิส โอเพ่น 
ปี 2019  มาเก๊า โอเพ่น, โคเรีย โอเพ่น, สิงคโปร์ โอเพ่น 
ปี 2020 โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น, โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น , เวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์, ฮายโล โอเพ่น
รองแชมป์ 11 รายการ
ปี 2016 โคเรีย มาสเตอร์ส, ไซเอ็ด โมดิ อินเดีย
ปี 2017 สิงคโปร์ โอเพ่น, ชิงแชมป์เอเชีย, ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส
ปี 2018 เดนมาร์ก โอเพ่น
ปี 2019 ชิงแชมป์โลก, มาเลเซีย มาสเตอร์ส, ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส
ปี 2020 ออลอิงแลนด์
ปี 2021 เดนมาร์ก